ข้อแนะนำในการเลือกแบตเตอรี่ไฟฉุกเฉิน

 | Lifestyle
แบตเตอรี่ไฟฉุกเฉิน

แบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินเป็นส่วนประกอบสำคัญของไฟฉุกเฉิน อุปกรณ์ที่ให้แสงสว่างยามฉุกเฉิน ไฟจะส่องสว่างขึ้นมาอัตโนมัติ เมื่อเกิดไฟฟ้าภายในอาคารดับ เกิดเหตุไฟไหม้หรือเกิดเหตุขัดข้องต่างๆ การทำงานของไฟฉุกเฉินจะอาศัยแบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินที่ชาร์จไว้ตลอดเวลา พร้อมทำงานเมื่อไฟฟ้าดับ เมื่อไฟฟ้าดับวงจรชาร์จจะหยุดการทำงาน สวิตช์อัตโนมัติจะต่อเข้ากับหลอดไฟเข้ากับแบตเตอรี่ ทำให้ไฟฉุกเฉินส่องสว่างขึ้น 

แบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินมี 2 แบบ คือ แบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินแบบเติมน้ำกลั่นและแบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินแบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่นหรือแบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินแบบแห้ง การเลือกแบตเตอรี่ไฟฉุกเฉิน ถ้าเป็นแบบเติมน้ำกลั่นเหมาะสำหรับการติดตั้งในสถานที่ที่อากาศสามารถถ่ายเทได้อย่างสะดวก ติดตั้งในพื้นที่โล่ง ตามทางเดิน บันได ฯลฯ เนื่องจากตลอดเวลาที่มีการประจุไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่อาจมีไอตะกั่วระเหยออกมาได้ ส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจแต่ถ้าเป็นแบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินแบบแห้งเหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ห้องแบบปิด

ข้อแนะนำในการใช้แบตเตอรี่ไฟฉุกเฉิน มีอีกหนึ่งอย่างคือ ควรให้แบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินคายประจุไฟฟ้าจนหมดก่อน เพื่อยืดอายุการใช้งาน โดยทำการปิดเครื่อง แล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 6 เดือน/ครั้ง โดยทั่วไทยแล้วแบตเตอรี่ไฟฉุกเฉิน มีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 ปี หลังจากนั้นแบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินจะค่อยๆ เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา เช่น แบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินจะเก็บไฟได้น้อยลง บางครั้งอาจเกิดปัญหาชาร์จไฟไม่เข้า แบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินเกิดอาการบวมหรือพบว่ามีคราบเกลือเกาะ เป็นต้น ดังนั้นเพื่อให้สามารถใช้แบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพควรทำการเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ 

เมื่อได้รู้เรื่องราวสาระที่น่าสนใจของ แบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินไปแล้ว เราขอเสริมในส่วนของการเลือกไฟฉุกเฉิน เลือกไฟฉุกเฉินที่มีระยะเวลาไฟสำรองเพียงพอ หากเกิดเหตุฉุกเฉินควรประเมินสถานการณ์ดูว่า ไฟฉุกเฉินควรมีระยะเวลาส่องสว่างนานเท่าไหร่ เพียงพอต่อการอพยพคนออกมาจากอาคารได้หรือไม่ โดยปกติทั่วไปแล้วไฟฉุกเฉินมีระยะเวลาส่องสว่างประมาณ 4-10 ชั่วโมง ยิ่งไฟฉุกเฉินให้แสงสว่างได้นานแค่ไหน ก็ยิ่งส่งดีเท่านั้น เช่นเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้จะได้อพยพผู้คนออกมาได้ทำให้เกิดความปลอดภัยลดโอกาสการเสียชีวิต รวมถึงการควบคุมเพลิงไหม้ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น 

ส่วนใหญ่แล้วไฟฉุกเฉินในปัจจุบัน นิยมใช้หลอดไฟ LED เนื่องจากให้แสงสว่างที่ดี มีประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดพลังงาน ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ ให้แสงสว่างโดยปราศจากรังสียูวี ทนทานต่อการสั่นสะเทือน ลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง นอกจากนั้นไฟฉุกเฉิน LED ยังมีข้อดีอื่นๆ อีกมากมาย หวังว่าสาระดีๆ เกี่ยวกับการเลือกแบตเตอรี่ไฟฉุกเฉิน รวมถึงข้อแนะนำเกี่ยวกับไฟฉุกเฉินที่เราเอามาแชร์จะมีประโยชน์ต่อทุกๆ คนไม่มากก็น้อย